พุยพุย EAED3210กลุ่ม101การให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย: กันยายน 2016

วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559











              บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่5
วันจันทร์ที่19กันยายน พ.ศ.2559 เวลา08.30-11.30  ห้อง(15-0908)
  • ปั้มใบมาเรียน
  • อธิบายเกี่ยวกับงานวิจัยที่จะนำเสนอหลังสอบปลายภาคเมื่อพูดเสร็จก็เข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ในบทที่5
เรื่อง รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา

        สถานศึกษาปฐมวัยจะต้องทำหน้าที่และร่วมกันรณรงค์เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและการมีส่วนร่วมกับการศึกษาปฐมวัย โดยจะต้องพัฒนาทั้งความรู้และทักษะ เพื่อนำไปใช้กับเด็กอย่างถูกวิธี 
รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน
   ข่าวสารประจำสัปดาห์
           เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียนและแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กที่บ้านเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลประจำสัปดาห์ประกอบไปด้วย
- รายละเอียดของสาระการเรียนรู้
- พัฒนาการและการเรียนรู้ที่เด็กได้รับจากการปฏิบัติกิจกรรม
- กิจกรรมครอบครัว
- เรื่องน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง
- ข้อเสนอแนะของผู้ปกครอง
    จดหมายข่าวและกิจกรรม
  เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครอง ในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสาร
และกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการพัฒนเด็กโดยจัดส่ง
ให้ผู้ปกครองในทุกสัปดาห์หรือตามความเหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ สิ่ง
ที่นำเสนอในจดหมายข่าวและกิจกรรมอาจจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง
ดังนี้
       - ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็กและผู้ปกครอง
    - กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการสำหรับผู้ปกครอง เช่น นิทาน ศิลปะ ภาษา ฯลฯ
      - ความรู้สำหรับผู้ปกครอง ฯลฯ
ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง
จัดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียนของทุกห้องเรียนโดยนำข้อมูลความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครอง จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
    - ข้อมูลจากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสาร
    -  เกร็ดความรู้หรือสาระน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง
    - ภาพถ่ายกิจกรรมในชั้นเรียน
    - ผลงานแห่งความภาคภูมิใจ
  - กิจกรรมในโอกาสพิเศษ เช่น ทัศนศึกษา การแสดงในวันปีใหม่ ฯลฯ
การสนทนา
        การสนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่เข้าถึงและตรงมากที่สุด การสนทนาเป็นแนวทางหนึ่งของการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีเพื่อผู้ปกครอง และช่วยในการให้ความรู้ผู้ปกครองเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนทนาดังนี้
 - เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเด็ก
  - เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานของโรงเรียน
 - เพื่อให้ครูและผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมเด็กขณะที่อยู่ที่โรงเรียนและที่บ้าน
รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา
ห้องสมุดผู้ปกครอง
       เป็นสถานที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้ อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัยสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานของสถานศึกษา การอบรมเลี้ยงดู การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก การจัดการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและส่งผลต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ 
ป้ายนิเทศ
    ป้ายนิเทศในลักษณะนี้เป็นป้ายที่จัดเพื่อให้ความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา ลักษณะของป้ายประกอบด้วย ภาพ ตัวอักษร ของจริง แผนภูมิ สถิติ ฯลฯ ป้ายนิเทศจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
 - ข้อมูลการดำเนินงานของโรงเรียน เช่น ปรัชญา นโยบาย วัตถุประสงค์ ฯลฯ
    - ข่าวสารประจำวันจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ฯลฯ
    - ข่าวของสถานศึกษา เช่น การประชุม สัมมนา กิจกรรมต่างๆ
    - ประกาศต่างๆ ของทางโรงเรียน เช่น วันหยุด นัดประชุมฯลฯ
    - ข่าวสารบริการต่างๆ เช่น แนะนำสถานศึกษา ข้อมูลกิจกรรมของเด็ก
    - กิจกรรมของสถานศึกษา เช่น กิจกรรมวันครู วันพ่อ วันแม่ ฯลฯ
    - ป้ายสำหรับผู้ปกครองในการแสดงความคิดเห็น
     โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองดังกล่าวเป็นรูปแบบของการพัฒนาศักยภาพของผู้ปกครองให้มีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมพัฒนาการตลอดจนการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก 
    สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ได้จัดทำแผนงานพัฒนาพ่อแม่ ผู้ปกครอง สมาชิกในครอบครัวและผู้ที่เตรียมตัวเป็นพ่อแม่ ดังนี้
 - สถานศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันรณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนให้แก่ประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
 - จัดบริการเสริมความรู้ ความเข้าใจ ฝึกทักษะให้พ่อแม่ ครอบครัว     คู่สมรสมีความเข้าใจในวิธีเลี้ยงดูเด็ก
- ส่งเสริมให้องค์กรของรัฐ เอกชน ท้องถิ่นจัดฝึกอบรมให้แก่พ่อแม่   คู่สมรสใหม่และผู้ปกครอง
- สนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
-จัดให้มีวิธีการประเมินผลการพัฒนาเด็กปฐมวัยโดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง
นิทรรศการ
            เป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครองได้อย่างกว้างขวางรูปแบบหนึ่งด้วยการใช่สื่อหรืออุปกรณ์หลายชนิดในการถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเช่น ภาพเขียน ภาพถ่าย สถิติ หุ่น ผลงานเด็ก ภาพยนตร์ วีดีโอและซีดีซึ่งมีรูปแบบของนิทรรศการที่สามารถจัดได้ในสถานศึกษาดังนี้
    - นิทรรศการเพื่อการประชาสัมพันธ์
    - นิทรรศการเพื่อให้ความรู้
    - นิทรรศการเพื่อความบันเทิง
มุมผู้ปกครอง
     เป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดให้บริการแก่ผู้ปกครองในระหว่างการเยี่ยมชมโรงเรียน การรอรับ-ส่งเด็ก หรือพบปะสังสรรค์ระหว่างผู้ปกครองหรือครู เป้าหมายสำคัญของการจัดมุมผู้ปกครองคือ
  - เพื่อให้ผู้ปกครองได้ใช้เวลาว่างระหว่างการรอรับ-ส่งเด็ก ให้เกิดประโยชน์ด้วยการอ่านหนังสือ ฯลฯ
    - เป็นบริเวณที่ให้ผู้ปกครองได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ปกครองด้วยกัน
   - เพื่อผู้ปกครองและเด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกันตามความเหมาะสมในระยะเวลาสั้นๆ เช่น อ่านหนังสือ ดูภาพกิจกรรมของเด็ก ชมผลงานเด็ก ฯลฯ
การประชุม
    เป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุดซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานของถานศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายจุดประสงค์ของการจัดประชุมผู้ปกครองมีดังนี้
    - เพื่อแถลงนโยบายการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
    - แลกเปลี่ยนทัศนคติระหว่าสถานศึกษากับผู้ปกครอง
    - แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงาน
    - ประสานงานและทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง
    - สร้างความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับครู
  - พัฒนาความรู้ความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก การจัดการศึกษา ฯลฯ
จุลสาร
           เป็นลักษณะของสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆ ด้าน ให้แก่ผู้ปกครองได้รับทราบความเคลื่อนไหวและเพื่อประชาสัมพันธ์ เนื้อหาในจุลสารจะประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนของบรรณาธิการ  เรื่องราวของเด็กๆ บทความรู้ และเบ็ดเตล็ด การจัดทำจุลสารเพื่อให้มีความน่าสนใจ โดยพิจารณาดังนี้
    - เนื้อหาความรู้ที่นำเสนอ  - จัดทำรูปเล่มให้น่าสนใจ
  - ภาพประกอบมีสีสันสวยงาม  - ภาษาไม่ควรจะเป็นวิชาการมากเกินไป
  - ควรมีคอลัมน์สำหรับผู้ปกครอง
คู่มือผู้ปกครอง
     เป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษา โดยจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนหนังสือทั่วไป ข้อมูลในคู่มือผู้ปกครองประกอบไปด้วย
    - ปรัชญาและเป้าหมายของสถานศึกษา
  - หลักสูตรและการจัดประสบการณ์
    - บุคลากรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถ
    - อาคาร สถานที่ สภาพแวดล้อม
    - การจัดบริการและสวัสดิการต่างๆ
    - กฎ ระเบียบ และแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ปกครองได้ทราบโดยทั่วกัน
    - การวัดและประเมินผล
ระบบอินเทอร์เน็ต
            เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ใช้เพื่อการเรียนการสอน และเวิลด์ไวด์เวป  (WWW.)  การใช้อินเทอร์เน็ตในการให้ความรู้ผู้ปกครองนับเป็นบริการด้านหนึ่งที่สถานศึกษาสามารถจัดทำในรูปแบบ เวิลด์ไวด์เวป  บริการให้ความรู้ผู้ปกครองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่สถานศึกษาบรรจุลงในเว็บไซด์ สามารถให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ
    - ข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา  - เครือข่ายสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง
    - สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์สำหรับเด็ก 
    - กิจกรรมสำหรับผู้ปกครองและเด็ก
    - กิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข่าวสาร ข้อมูล
    - คำถามของผู้ปกครอง

******************************************************

คำถามท้ายบท
1.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียนครูประจำชั้นควร
พิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้างจงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ 
1.ข่าวสารประจำสัปดาห์เป็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งไปถึงผู้ปกครองเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียน
2.จดหมายข่าวและกิจกรรมเป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครองในชั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก
3.ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครองจัดเพื่อให้ความรู้ผู้ปกครองรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถจัดได้บริเวณหน้าชั้นเรียน
4.การสนทนาเป็นรูปแบบการให้ความรู้แบบเข้าถึงและตรงมากที่สุด

******************************************************
2.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้างจง
อธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ
1.ห้องสมุดผู้ปกครองเป็นสถานที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ อันเป็นแหล่งเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งของการให้บริการเผยเเพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารการเคลื่อนไหวต่างๆ
2.ป้ายนิเทศจัดเพื่อให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครองทั้งสถานศึกษา
3.นิทรรศการเป็นรูปแบบที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมของสถานศึกษาให้แก่ผู้ปกครองได้อย่างกว้างขวางรูปแบบหนึ่ง
4.มุมผู้ปกครองเป็นบริเวณที่สถานศึกษาจัดไว้สำหรับผู้ปกครองเวลาเยี่ยมชมโรงเรียนและรอ-รับส่งเด็ก
5.การประชุมเป็นกิจกรรมหลักของสถานศึกษาที่สามารถใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้แก่ผู้ปกครองได้ดีที่สุด
6.จุลสารเป็นลักษณะของสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในทุกด้านๆ
7.คู่มือผู้ปกครองเป็นเอกสารที่ให้ความรู้ผู้ปกครองได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา
8.ระบบอินเทอร์เน็ตเป็นเครืื่องมือในการสื่อสาร บริการให้ความรู้ผู้ปกครอวผ่านอินเทอร์เน็ต
******************************************************
3.นักศึกษามีวิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วม
มือในการเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย
ตอบแนวทางการแก้ไขปัญหาผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือคือเเจกเอกสารให้ผู้ปกครองกลับไปอ่านและศึกษาหาความรู้ที่บ้านและม่สื่อเช่นวีดีโอเพื่อให้ผู้ปกครองได้เปิดดู
******************************************************
4.การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็น
อย่างไร จงอธิบาย
ตอบการจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความจำเป็นอย่างมากเพราะผู้ปกครองเป็นบุคคลที่สำคัญในการดูแลเด้กและมีเวลาใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด
******************************************************
5. รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษะของรูป
แบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น 
ตอบคือต้องให้ความรู้ผู้ปกครองเกี่ยวกับเรืื่องที่ผู้ปกครองยังไม่ทราบและติดตามผล
******************************************************
การนำมาประยุกต์ใช้
นำวิธีการที่อาจารย์สอนไปใช้ในการทำจุลสารเอกสารถึงผู้ปกครองได้
อย่างถูกต้อง การจัดผลงานของเด็ก มุมต่างๆภายในห้องเรียน
ประเมินอาจารย์ผู้สอน
อาจารย์แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมในการสอนเตรียมเนื้อหาการสอน
มาก่อนที่จะสอนทำให้การเรียนราบรื่นไม่มีติดขัดใดใดเมื่อนักศึกษา
ไม่เข้าใจตรงไหนที่อาจารย์สอนมาอาจาย์ก็เปิดโอกาสให้ยกมือถาม
ได้ ตรงต่อเวลา


วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่4
วันจันทร์ที่5กันยายน พ.ศ.2559 เวลา08.30-11.30 ห้อง (15-0908)

เนื้อหา/สาระการเรียนรู้

ปั้มใบมาเรียนหลังจากนั้นเข้าสู่บทเรียน บทที่4 โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ

โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศไทย
โครงการแม่สอนลูก
  •     ดำเนินการโดยกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ
  •     จัดสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาส โดยให้มารดาเป็นผู้สอนเองที่บ้าน
  •     ใช้วิธีการแนะนำให้รู้จักใช้ทักษะ รู้จักคิดและเรียนรู้มโนทัศน์ด้านต่างๆ
  •     ใช้รูปแบบการทดองสอนแม่เพื่อสอนลูกที่บ้าน โดยอาศัยรูปแบบโครงการ      การเยี่ยมบ้านของประเทศอิสราเอล
  •     ดำเนินการโดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.อุบลราชธานี
  •     เป็นโครงการทดลองหารูปแบบในการให้ความรู้แก่กลุ่มสตรีแม่บ้านในชุมชน ได้นำแนวทางของโปรงแกรม Hippy Program ของประเทศอิสราเอล
ก   การพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กต่ำกว่า 3 ปี ผ่านโรงพยาบาลชุมชนและสถานีอนามัย
เป็นโครงการภายใต้งานวิจัยของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เกิดจากความต้องการให้ครอบครัวเป็นหลักของการพัฒนาเด็กในช่วงอายุต่ำกว่า 3 ปี ด้วยการให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นผู้เลี้ยงดูที่มีคุณภาพ โดยใช้รูปแบบการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ประกอบด้วย 4 รูปแบบ คือ
    - วิธีกระบวนการเรียนรู้โดยการมีส่วนร่วม
    - วิธีการสนทนากลุ่ม
    - วิธีอภิปรายกลุ่ม
    - วิธีการบรรยาย  
โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
    - แบบสังเกตความคิดสร้างสรรค์ในเด็กสำหรับพ่อแม่
    - คู่มือความรู้และการจัดกิจกรรมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
    - หลักสูตรการเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์
    - ซีดีการเรียนรู้ด้วยตนเองเรื่อง  “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
    - จัดอบรมพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่อง  “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความข็มแข็งของครอบครัว “บ้านล้อมรัก”
    - ผ่านโทรทัศน์ในรูปแบบสารคดีและแทรกในรายการโทรทัศน์
    - ผ่านสื่อวิทยุในรูปแบบสารคดีสั้น สปอตประชาสัมพันธ์ กิจกรรม และสัมภาษณ์
    - สื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ จดหมายข่าว โปสเตอร์ สติกเกอร์ เสื้อยืด เป็นต้น
    - กิจกรรมส่งเสริมความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว เช่น เกม กีฬา เป็นต้น
โครงการหนังสือเล่มแรก (Bookstart Thailand)

        โครงการหนังสือเล่มแรก เริ่มต้นขึ้นในปี 2546 โดยการริเริ่มของมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งในปีนั้นรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นปีแห่งการอ่าน  ส่วนภาคเอกชนโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการ “รวมพลัง รักการอ่าน” ขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน  โดยมีเป้าหมายที่จะให้พ่อแม่ลูกมีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือ สร้างพื้นฐานการอ่านและสานสัมพันธ์ในครอบครัว ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยนิสัยรักการอ่านและประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งองค์กรท้องถิ่นในการรณรงค์โครงการ โดยการจัดทำถุงบุ๊คสตาร์ท (book start) ติดตามประเมินผลครอบครัวในโครงการ
โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว
   เป็นการดำเนินงานร่วมกันของกรมการพัฒนาชุมชน กรมการศึกษานอกโรงเรียน กรมอนามัย สำนักงานปรัดกระทรวงสาธารณสุข และอีกหลายหน่วยงาน วัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ให้พ่อแม่ สมาชิกในครอบครัวเยาวชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโตมีพัฒนาการตามวัยต่อเนื่องสอดคล้องกับวิถีชีวิตครอบครัวและสังคมของเด็ก 
โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ
โครงการ การให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล
    ประเทศอิสราเอลถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาค่อนข้างสูง เพราะถือว่าการศึกษาคือการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพ ดังนั้น จึงมีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 3-4 ปี โดยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ งานการศึกษาเด็กโดยพ่อแม่ผู้ปกครองถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการศึกษาของอิสราเอลตั้งแต่ระดับอนุบาล การทำงานระหว่างบ้านกับโรงเรียนและชุมชนจึงพบได้ในทุกโรงเรียน ซึ่งถือเป็นงานปกติที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ 
โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยที่เรียกว่าALEH
(Early Childhood Enrichment Center)
- สอนแม่ที่อายุยังน้อยให้รู้จักใช่สื่อ-อุปกรณ์ (ของเล่น) เกมการเล่นเพื่อพัฒนาเด็ก และถ้าเด็กมีปัญหาทางด้านพัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาก็จะเสนอแนะให้รู้จักกับนักสังคมสงเคราะห์เพื่อรับฟังคำแนะนำ
  - จัดกิจกรรมสอนให้แม่ทำของเล่นให้ลูกหรือคิดสร้างเกมการเล่นกับลูก
  - ประสานงานกับคลินิกครอบครัวแม่และเด็ก จัดกิจกรรมเสนอแนะให้แม่ที่ไม่เคยมีเวลาว่างไปร่วมในศูนย์ ALEH เพื่อจัดกิจกรรมในข้อขั้นต้น
โครงการเสนอแนะให้แม่สอนลูกเลี้ยงลูกอย่างไรให้ถูกวิธี
        อาจเรียกโครงการนี้ว่าเป็นการจัดการศึกษานอกระบบแก่พ่อแม่ก็ว่าได้ โดยโครงการนี้ชื่อ HATAF โปรแกรม เป็นโครงการที่ร่วมมือกันทำระหว่างมหาวิทยาลัยเยรูซาเล็มกับกระทรวงศึกษาธิการ เป็นโครงการที่จัดรูปแบบการสอนพ่อแม่ที่มีลูกอายุ 1-3ปี ซึ่งกิจกรรมที่สอนพ่อแม่ผู้ปกครองก็คือ ให้พ่อแม่ได้พัฒนาทักษะการพูด-คุยกับลูก ได้เรียนรู้พัฒนาการทั้งทางด้านสติปัญญา อารมณ์และสังคม  สอนให้พ่อแม่จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมให้ลูกอย่างง่ายๆ รู้จักใช้วัวดุในครัวเรือนและท้องถิ่นเป็นสื่อ –อุปกรณ์ และสอนให้รู้จักจัดกิจกรรมการเล่นกับลูกที่มีอายุ 1-3 ปี
โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก
         จัดขึ้นสำหรับเด็ก 4-6 ปี พร้อมด้วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง วัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครองใช้เวลาว่างร่วมกับลูกในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ และสนุกกับกิจกรรม-ผลงานที่ลูกสร้างขึ้น โดยมีวิทยากรเป็นครูจากเนสเซอรี่ หรือ รร.อนุบาลหรือผู้เชี่ยวชาญทางศิลปะ-ดนตรี เกมการศึกษา นาฏศิลป์ ร้องรำทำเพลง ฯลฯ โดยก่อนเริ่มกิจกรรมจะมีกรพูดคุยกับพ่อแม่ถึงกิจกรรมที่จะเล่นกับเด็ก และเมื่อจบกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยสรุปและประเมินผลที่ได้ในวันนั้นๆ ระหว่างพ่อแม่ ผู้ปกครองและผู้จัด  
โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา
- เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย รวมทั้งลักษณะของชีวิตครอบครัว
    - ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก
    - ได้อภิปรายเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและประเพณีที่มีต่อชีวิตครอบครัว
    - เพื่อให้เข้าใจลักษณะและจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่ 
    - ให้เข้าใจเรื่องความต้องการทางการศึกษาของเด็ก
    - ให้สนับสนุนในการช่วยเหลือในการเรียนของเด็กจนประสบความสำเร็จ
    - สามารถที่จะติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างครู ผู้บริหารและนักเรียน
    - ให้มีส่วนร่วมในการออกแบบรับความช่วยเหลือสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้มาโรงเรียน เช่น การให้บริการเอกสารในเรื่องต่างๆ
    โครงการ เฮดสตาร์ท (Head Start)
โครงการฮมสตาร์ทมีฐานะเสมือนห้องปฏิบัติการระดับชาติเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
    - สร้างครอบครัวให้เข้มแข็งในการอบรมเลี้ยงดูเด็กขั้นต้น
    - เชื่อมโยงเด็กและครอบครัวต่อการบริการชุมชนที่มีความต้อการจำเป็น
    - ประกันโครงการที่จัดการดีว่าพ่อแม่เด็กมีส่วนร่วมในการตกลงใจ
โครงการโฮมสตาร์ท(HomeStart Program)
  เป็นการนำพ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาของเด็กเล็กซึ่งอยู่ภายใต้โครงการใหญ่ คือ เฮดสตาร์ท เป้าหมายคือ เพื่อสร้างความสำนึกให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของตนที่มีต่อเด็ก และชี้ให้ผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก เห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมของมารดาที่มีผลต่อการเรียนของเด็กด้อยโอกาส โดยช่วยเหลือสนับสนุนให้ครอบครัวมีความสามารถดูแลเด็กอย่างถูกต้องและมีสมรรถภาพ
โครงการสมาร์ท สตาร์ท (Smart Start)
         ก่อตั้งโดยนายจิม ฮั้น ผู้ว่าการมลรัฐแคโรไลนาเหนือ ในปี พ.ศ. 2536 ได้จัดให้มีคณะทำงานศึกษาสาระปัญหาเด็กเล็ก โดยเฉพาะในด้านการอบรมเลี้ยงดูและการศึกษาของเด็กเล็ก  ปัจจุบันกระทรวงทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดำเนินโครงการ โครงการนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากความคิดริเริ่มด้านเด็กเล็กจากแรงผลักดันของท้องถิ่น ชุมชนรวมตัวกันเข้าเรียกร้องความต้องการให้เด็กเล็ก โดยมีเป้าหมายที่เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ให้มีสุขภาพและความพร้อมที่จะเรียนให้สำเร็จ
โครงการ Brooklyne Early Childhood
           เป็นโครงการที่ฝึกให้ผู้ปกครองเป็นครูในการสอนลูก  ดำเนินการโดย Brooklyne Public School ซึ่งได้รับความร่วมมือจากศูนย์การแพทย์ในโรงพยาบาลเด็ก ในการจัดการศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง โดยการจัดให้มีการตรวจสุขภาพเด็กเบื้องต้นเพื่อให้สามารถรักษาดูแลความเจ็บป่วย ความพิการหรือข้อบกพร่องต่างๆ ในระยะต้นได้ นอกจากนี้ยังให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกวิธี และวิธีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป ด้วยการฝึกให้เด็กเล่นรวมกลุ่ม
โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศนิวซีแลนด์
      ประเทศนิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาปฐมวัย โดยการศึกษาในระดับนี้จะให้โอกาสผู้ปกครองใช้สิทธิในฐานะหุ้นส่วนในการจัดการศึกษาปฐมวัย และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหลาน
    ครูอนุบาลที่มีความสามารถจะให้โอกาสผู้ปกครองและครอบครัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก การเรียนการสอน และส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ปกครองอยู่ด้วยในช่วงที่มีการเรียน  
โครงการ เพลย์เซ็นเตอร์
         เป็นโครงการที่กล่าวได้ว่า พ่อแม่ไปมีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด นับตั้งแต่การจัดตั้ง การบริหาร การดำเนินงาน โดยมีการควบคุมมาตรฐานที่รัฐบาลรับรองและมาสมารถจัดบริการให้แก่เด็กเล็กได้ประมาณหนึ่งในสามของเด็กปฐมวัยทั้งหมดของประเทศ ปรัชญาในการทำงานคือ
     “พ่อแม่คือครูคนแรก และเป็นครูที่ดีที่สุดของลูก”
โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
เป็นโครงการที่โรงเรียนจัดนิทรรศการสำหรับผู้ปกครอง เพื่ออธิบายถึงปรัชญาที่เป็นรากฐานของการศึกษาปฐมวัย และนโยบายเรื่องประโยชน์ของการศึกษาที่มีต่อผู้ปกครอง 
โครงการ “พ่อแม่คือครูคนแรก” (Parents as First Teachers)
     เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือแนะนำและให้ข้อมูลแก่พ่อแม่ให้มีความรู้ความเข้าเข้าใจพัฒนาการของเด็กก่อนเกิดและตั้งแต่เกิดถึง 3 ขวบ รัฐบาลส่งเสริมให้พ่อแม่ทุกคนเข้าร่วมโครงการได้ตามความสมัครใจและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โครงการนี้จะคัดเลือกพ่อแม่ที่ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจอย่างดีมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า “พ่อแม่นักการศึกษา”  
โครงการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองประเทศออสเตรเลีย
   มีรูปแบบในการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในลักษณะที่เรียกว่า (Early Childhood Center) หรือ ศูนย์สุขภาพเด็ก (Baby Health Center) เป็นศูนย์ที่ให้บริการคำแนะนำฟรีสำหรับพ่อแม่และทารกจนถึง 5 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จะเป็นพยาบาลทั่วไป จะทำการนัดหมายให้พ่อแม่พาลูกไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ดูพัฒนาการของลูก ไปเยี่ยมบ้าน โดยเฉพาะทารกที่มีปัญหา เช่น ตัวเหลืองรวมทั้งไปสอนการดูแลการอาบน้ำเด็กทารกจนกระทั่งแม่แข็งแรงดี มีการจดบันทึกข้อมูลเด็กลงในสมุดสีฟ้า (blue book) ซึ่งเด็กทุกคนต้องมีสมุดเล่มนี้ สำคัญเหมือนบัตรประชาชน  นอกจากนี้ก็จะให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกายและใจ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรก
โครงการบุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ (Bookstart UK)     
โครงการ บุ๊คสตาร์ท หรือเรียกว่า “หนังสือเล่มแรก” ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2535 โดย นางเวนดี้ คูลลิ่ง ภายใต้ บุ๊คทรัสต์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่มีจุดมุ่งหมายในการนำหนังสือสู่คน นำคนสู่หนังสือ
    นับเป็นโครงการแรกของโลกที่ว่าด้วยหนังสือสำหรับเด็กทารก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กทารกในอังกฤษทุกคนได้รับโอกาสและสนับสนุนให้พัฒนาความรู้สึกรักหนังสือและการอ่านไปตลอดชีวิต ด้วยการจัดสรรให้เด็กทารกทุกคนได้รับ “ถุงบุ๊คสตาร์ท”
ถุงบุ๊คสตาร์ท
ภายในถุงประกอบด้วย
-หนังสือที่ได้รับการคัดสรรแล้ว 2 เล่ม
-หนังสือแนะนำพ่อแม่ด้วยภาพเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กและโยงไปถึงการเลี้ยงดูด้วยหนังสือ
-ของชำร่วยสำหรับเด็ก เช่น ผ้ารองจานฯลฯ
-แผนที่แนะนำห้องสมุดแถวละแวกบ้าน
-บัตรสมาชิกห้องสมุดสำหรับเด็ก
-รายชื่อหนังสือสำหรับเด็ก
-รายชื่อศูนย์สนับสนุนคุณแม่เลี้ยงลูก
โครงการบุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น (Bookstart Japan)
         เมื่อปี พ.ศ. 2543 ญี่ปุ่นประกาศให้เป็น “ปีแห่งการอ่านของเด็ก” และได้มีการนำโครงการบุ๊คสตาร์ทของประเทศอังกฤษเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น โดยมีศูนย์สนับสนุนบุ๊คสตาร์ทเป็นเจ้าของโครงการ ด้วยหลักการและเหตุผลที่ว่า ภาษามีความสำคัญต่อการหล่อเลี้ยงจิตใจเด็ก เด็กเล็กต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างอ่อนโยน  โครงการบุ๊คสตาร์ทสนับสนุนสัมผัสอันอบอุ่นโดยมี “หนังสือภาพ” เป็นสื่อกลาง โดยทดลองที่เขตสุงินามิ ในกรุงโตเกียวเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2544 ได้รับความร่วมมือจากศูนย์อนามัย ห้องสมุดและหน่วยงานสนับสนุนการเลี้ยงดูเด็กสามองค์กรร่วมกันแจกถุงบุ๊คสตาร์ทแก่แม่ที่พาลูกมาตรวจสุขภาพในช่วงอายุ 4 เดือน โดยมีเป้าหมาย 200 ครอบครัว และก็ได้มีการแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วในประเทศญี่ปุ่น
*******************************************************************
คำถามท้ายบท
1.ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
ตอบ การให้ผู้ปกครองเตรียมความพร้อมให้แก่เด็ก ทั้งเรื่องพัฒนาการ การดูแลเพื่อให้มีคุณภาพในการเลี้ยงดูลูก
*******************************************************************
2.นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย
ตอบจัดตั้งกลุ่มบุคคลสำหรับการให้ความรู้ผู้ปกครอง และมีเอกสารการให้ความรู้ผู้ปกครองในทุกๆสัปดาห์
*******************************************************************
3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็ก มา 5 เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ 
ตอบ 
1.พัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ว่าเด็กในเเต่ละวัยจะต้องมีพัฒนาการอย่างไร
2.การอบรมเลี้ยงดู  เช่นการเลี้ยงดูเด้กที่ถูกต้องเเละเหมาะสม
3.อาหารสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น เด้กในวัยนี้ควรได้รับสารอาหารอะไรบ้าง
4.สุขภาพอนามัย เช่น การดูแลรักษาความสะอาด
5.นิทานและเพลงสำหรับเด็ก เช่นการอ่านนิทานที่ถุกต้องเเละการเลือกหนังสือนิทานที่เหมาะกับวัยของเด็ก
*******************************************************************
4.การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร   จงอธิบาย
ตอบส่งผลต่อเด็กเมื่อผู้ปกครองทราบถึงเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับเด็กเช่น อาหารสำหรับเด็กก็จะทำให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
*******************************************************************
5.นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไรจงอธิบาย
ตอบ ไปตรวจเยี่ยมบ้านของผู้ปกครองที่เราไปให้ความรู้แล้วพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กที่ผ่านมา
*******************************************************************